วันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่อง “ใบเลื่อย” โดยเฉพาะว่าการเลือกใช้ใบเลื่อยคุณภาพสูงนั้นคุ้มค่ากว่าใบเลื่อยราคาถูก เนื่องจากใบเลื่อยคุณภาพดีสามารถลับคมได้หลายครั้งและมีความทนทานสูง ซึ่งสามารถทำให้การตัดไม้ได้อย่างแม่นยำและประหยัดต้นทุนในระยะยาว
โครงสร้างของใบเลื่อย
ใบเลื่อยคุณภาพสูงมีฟันคาร์ไบด์ที่สามารถลับคมใหม่ได้ มาพร้อมช่องโค้งและตัวลดเสียงที่ช่วยในการทำงานที่แม่นยำและลดเสียงขณะใช้งาน ช่องขยายความร้อนที่ตัดด้วยเลเซอร์ช่วยให้ใบเลื่อยสามารถขยายตัวได้เมื่อร้อน ทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ
ประเภทของฟันใบเลื่อย
ฟันใบเลื่อยมี 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ใบเลื่อยเอนกประสงค์ (Alternate Tooth Bevel Raker) ที่ใช้ตัดทั่วไป, ใบเลื่อยสำหรับฉีกไม้ (Flat Top Grind) ที่ออกแบบมาให้ฉีกไม้โดยไม่เหลือเสี้ยน และใบเลื่อยสำหรับตัดขวาง (Crosscut) ที่ช่วยลดการฉีกขาดของไม้ขณะตัด
มุมแร็คของฟันใบเลื่อย
มุมแร็คคือมุมเอียงของฟันที่ช่วยให้การตัดมีประสิทธิภาพ เช่น ฟันใบเลื่อยสำหรับฉีกไม้จะมีมุมแร็คที่มากกว่าใบเลื่อยสำหรับตัดขวาง เพราะช่วยให้การฉีกไม้มีความดุดันและเร็วขึ้น ขณะที่ใบเลื่อยสำหรับตัดขวางจะมีมุมแร็คที่ต่ำกว่าเพื่อความเรียบร้อยและลดการฉีกขาดของไม้
ฟันประเภทอื่น ๆ
ฟันใบเลื่อยยังมีแบบพิเศษ เช่น ฟันแบบ High ATB ที่ใช้ตัดแผ่นไม้วีเนียร์และเมลามีน และฟันแบบ Triple Chip Grind (TCG) ที่ใช้ตัดพลาสติกและวัสดุเฉพาะทางอื่น ๆ ที่ต้องการการตัดที่เรียบและไม่ทิ้งรอยบนพื้นผิววัสดุ
คำแนะนำในการเลือกซื้อใบเลื่อย
ควรเลือกใบเลื่อยคุณภาพสูงที่มีการตัดด้วยเลเซอร์ มีฟันที่ใหญ่และสามารถลับคมได้ โดยแนะนำให้เลือกใบเลื่อยที่ผลิตจากคาร์ไบด์เกรดสูงที่มีอายุการใช้งานนาน เช่น ใบเลื่อย CMT จากอิตาลีที่มีคุณสมบัติเงียบและไม่ทำให้ไม้เกิดรอยไหม้
ลำดับการซื้อใบเลื่อย
ควรเริ่มจากใบเลื่อยเอนกประสงค์ที่ใช้งานได้ครอบคลุม จากนั้นตามด้วยใบเลื่อยสำหรับฉีกไม้และตัดขวางเพื่อการตัดที่ละเอียดและไม่มีรอยไหม้ ถ้าใช้งานเครื่องตัดมุมบ่อย ควรมีใบเลื่อยสำหรับเลื่อยตัดมุมโดยเฉพาะ
ข้อสรุป
การเลือกซื้อใบเลื่อยที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับการใช้งานนั้นสำคัญ เนื่องจากช่วยให้การตัดได้ผลลัพธ์ที่ดี ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว