แท่นตัดเหล็ก/สแตนเลส
ในงานตัดโลหะประเภทเหล็กและสแตนเลส เครื่องมือชนิดหนึ่งที่ช่างจะขาดเสียไม่ได้ คือแท่นตัดเหล็ก/สแตนเลส ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายประเภทตามการใช้งาน วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จัก และเลือกใช้เครื่องมือตัวนี้ ให้เหมาะสมกับงานของท่าน และเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแท่นตัดเหล็ก 2 ประเภท ให้ได้ทราบกัน
เครื่องตัดเหล็กที่เราจะกล่าวถึง คือ เครื่องประเภทหิ้วถือได้ (Portable machine) ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับช่างทั่วไป และงานก่อสร้างพื้นฐาน ซึ่งแบ่งชนิดแท่นตัดที่เห็นกันอยู่โดยทั่วไปเป็น 2 ประเภท คือ
- เครื่องตัดเหล็กชนิดไฟเบอร์ ใช้แผ่นตัดไฟเบอร์
เครื่องตัดไฟเบอร์ เป็นเครื่องตัดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในท้องตลาด เหมาะสำหรับทำงานทั่วๆ ไป ที่ไม่ได้คำนึงถึงความสวยงามปราณีตของชิ้นงานมากนัก แต่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และราคาถูก หาซื้อง่าย ไม่ต้องมีการบำรุงรักษามาก เครื่องตัดไฟเบอร์ จะใช้กับแผ่นตัดไฟเบอร์ ซึ่งมีอยู่หลายเกรดด้วยกัน ใบตัดประกอบด้วยเส้นใยไฟเบอร์ เป็นโครงสร้าง ยึดกับเม็ดทราย ซิลิก้า ซึ่งมีความแข็งมาก ซึ่งเม็ดทรายนี้เองที่ไปขัดถูผิวของชิ้นงาน วิธีการตัดของแผ่นไฟเบอร์คือ การถูให้ขาด จึงต้องใช้ความเร็วรอบขณะเดินเครื่องเร็ว ส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 3,800 rpm
ข้อดี- ราคาถูก หาซื้อง่าย มีขายทั่วไปตามท้องตลาด
- ตัดไว ใช้งานสะดวก
- ไม่ต้องมีการบำรุงรักษามากนัก
ข้อเสีย
- ขณะใช้เครื่องตัดไฟเบอร์ จะมีฝุ่น จากเส้นใยไฟเบอร์ และมีกลิ่นเหม็น ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ หากสูดดมมากๆ อาจจะเป็นมะเร็งปอดได้ ผู้ใช้จะต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย เช่น หน้ากากปิดจมูกป้องกันฝุ่น ถุงมือและแว่นตาป้องกันสะเก็ดไฟ ใส่ปลั๊กอุดหูเพื่อป้องกันเสียง ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่างส่วนใหญ่มักละเลย
- ชิ้นงานที่ตัดจากเครื่องไฟเบอร์จะดำ ตัดแล้วมักจะแถ และมีครีบ เสียเวลาต้องขัดด้วยเครื่องขัด ก่อนนำไปใช้งานต่อ
- หากใช้ตัดงานชิ้นใหญ่ ต้องเปลี่ยนใบบ่อย เพราะใบไฟเบอร์จะสึกและหดลงเรื่อยๆ
- คุณภาพและความคงทนของเครื่องไม่สูงนัก
- เครื่องตัดเหล็ก/สแตนเลสชนิดใบเลื่อยวงเดือน
แท่นตัดชนิดใบเลื่อยวงเดือน เป็นเครื่องเลื่อยตัดโลหะ กำลังตัดสูง ใช้กับใบเลื่อยคาร์ไบท์ สำหรับตัดชิ้นงานแห้ง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียด ความปราณีตสูงมากขึ้น ลักษณะการตัดของใบเลื่อยคือ การกัดให้ขาด จึงต้องใช้ความเร็วรอบขณะเดินเครื่องต่ำ รอบช้า กว่าเครื่องไฟเบอร์ ในระหว่างกระบวนการตัดชิ้นงานจะไม่ถูกทำให้ร้อนมากนัก จึงไม่ทำให้เกิดรอยไหม้ดำ และสามารถนำชิ้นงานไปดำเนินการได้ต่อทันที ไม่มีประกายไฟ เนื่องจากใช้เทคนิคของการตัดแห้ง (dry-cut method) จึงทำให้ประหยัดเวลาการทำงาน
ข้อดี
- ตัดชิ้นงานได้รวดเร็ว กว่าแผ่นไฟเบอร์ถึง 2 เท่า
- ไม่มีสะเก็ดไฟและประกายไฟ
- ชิ้นงานไม่ร้อน ไม่ไหม้และดำ ไม่ต้องเสียเวลาใช้กระดาษทรายขัดออก
- แนวตัดตรง ไม่แถ สามารถนำไปเชื่อมต่อกันได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาเจียรตกแต่ง หรือเชื่อมพอก
- ปลอดภัย ไร้ฝุ่น ไร้กลิ่น ไร้ควัน
- ใบเลื่อยวงเดือน และสามารถตัดโลหะไซต์ใหญ่ได้ และคงสภาพเหมือนเดิม โดยไม่ต้องเปลี่ยนใบบ่อยๆ เหมือนแท่นตัดไฟเบอร์ ซึ่งเวลาตัด ใบไฟเบอร์จะเล็กลงเรื่อยๆ และต้องเปลี่ยนใบ
- อายุการใช้งานของเครื่องยาวนานกว่าเครื่องไฟเบอร์
นอกจากเครื่องตัดสองประเภทนี้แล้ว ยังมีเครื่องตัดอีกประเภทหนึ่ง เป็นเครื่องชนิดใช้น้ำหล่อ (บริษัทยังไม่ได้นำเข้า) แท่นตัดจะมีรอบช้ามาก ใช้กับใบเลื่อย ไฮสปีด สตีล เหมาะสำหรับตัดเหล็ก สแตนเลส และอลูมิเนียม ที่มีความหนามากๆ ต้องคอยฉีดน้ำตลอดเวลา ชิ้นงานจะออกมาคุณภาพดีเหมือนเครื่องตัดใบเลื่อยวงเดือน
ส่วนในระดับอุตสาหกรรมที่ใหญ่มากขึ้น ก็จะเป็นเครื่องจักรขนาดใหญ่ ที่ใช้กับใบเลื่อยวงเดือนชนิดคาร์ไบค์ สำหรับตัดเหล็กขนาดใหญ่มากๆ ใบนึงตัดได้ถึง 2-3 หมื่นครั้ง และใช้เวลาตัดเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
…และในตอนต่อไป เราจะพูดถึงเรื่องใบตัดชนิดต่างๆ และวิธีการเลือกใช้ใบตัดให้เหมาะกับเครื่องตัดแต่ละเครื่องนะคะ